ลองชิมครับ

มันเยอะฉ่ำ ไม่แห้งแข็ง แต่ส่วนที่เป็นเนื้อกลับค่อนข้างเหนียว
น่าจะเป็นเพราะ วัวไม่ได้ขุนระยะเวลานาน คงไม่ได้ขุน 8เดือน
แล้วบางทีอาจจะไม่ใช่วัวยุโรปด้วยกระมัง(อันนี้ ลิ้นผมยังไม่ถึงขั้นครับ)

แต่รู้ว่า ออกจะเหนียวๆหน่อย ขัดกับความรู้สึกที่มีมันแทรก แปลกๆ
แล้วก็ มันย่องไปทั้งปากเลย

ขณะที่เนื้อชิ้นที่ลายมันแทรกปกติ หอม นุ่ม ฉ่ำกำลังดี

ยิ่งถ้าราคาเท่ากันด้วยแล้ว แน่นอนครับ ผมและผู้ที่ได้ลองชิม ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า
ขอเลือกกินแบบขุนลายมันแทรกตามปกติแบบเดิมดีกว่าครับ (ขนาดผมลิ้นไอ้เข้นะเนี่ย)

และแล้ว มันก็เหลือครับ เฮ้อ .............
ถ้าจะซื้อเนื้อทานกัน อย่าลืมสังเกตุดีๆนะครับ

แหม ... เล่นเอาหิวเลยนะครับเนี่ย

หนุ่ม..ประจวบ ฯ

อ๋อ รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่สหกรณ์โคเนื้อ ที่นครปฐม...... เขาตัดเเต่งเเละเเพคเเบบนี้เลยครับ
เป็นเนื้อส่วนที่ไม่มีไขมันเเทรก เขาเลยใช้ไขมันฉีดเข้าไปโดยใช้เครื่องฉีด เป็นไขมันจากวัวนี้เเหละ ที่ได้จากการตัดเเต่ง เป็นไขมันหุ้มซาก
เเต่เนื้อส่วนนี้ ลักษณะนี้ไม่เป็นอันตรายเเน่นอนครับ เพราะทุกอย่างก็เป็นส่วนจากตัวสัตว์ครับ เป็นเพียงการเพิ่มมูคค่าผลิตภัณฑ์เเละเพิ่มความน่ากินหนะครับ

อ่านกระทู้ นี้แล้วหิวครับ ไปกินข้าวเที่ยงก่อนน่ะครับ 555

เห็นแล้วน่ากลัวครับ น้ำมันเลวนองเต็มไปหมด เคยได้ข่าวและได้ยินมานานแล้วว่ามีการฉีดไขมันเทียมเข้าไปในเนื้อ Lean (เนื้อไม่ติดมัน) เพื่อเพื่มมูลค่า แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นการทำลายอุตสาหกรรมเนื้อบ้านเราเลยที่เดียวแถมยังหรอกผู้บริโภคที่ไม่มีความรู้ด้านไขมันแทรกเนื้ออีกต่างหาก ของเทียมก็คือของเทียมวันยังค่ำ เนื้อก็คงยังเหนียวอยู่เหมือนเดิม

ไขมันหุ้มซากจะต่างจากไขมันแทรกเนื้อครับ ไขมันหุ้มซากถึงแม้จะมาจากตัวสัตว์แต่ก็เป็นไขมันอิ่มตัว (unsaturated fat) เป็นไขมันชั้นเลว เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนไขมันแทรกเนื้อจะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว (Monounsaturated fat) เป็นไขมันชั้นดีที่ร่างกายต้องการ ไขมันไม่อิ่มตัวนี้จะมีในเนื้อที่มีไขมันแทรกตามธรรมชาติ ไม่ใช่แบบฉีด

มีเวลาจะเอาข้อมูลมาแชร์ครับว่าประโยชน์ของการทานเนื้อที่มีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อ (Marbling) มีประโยชน์อย่างไร และทุกคนต้องทานครับเพราะร่างกายเรายังต้องการอยู่

ลองมาดูคุณสมบัติของไขมันทั้งสองชนิดนี้ครับ

ชนิดของไขมัน

ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat)
สังเกตง่าย ๆ คือ ไขมันที่มีแนวโน้มแข็งตัวหรือเป็นไขเมื่ออุณหภูมิเย็นลง เช่น เนยต่าง ๆ มาร์การีน ไขมันสัตว์ น้ำมันพืชบางชนิด น้ำมันปาล์ม ฯลฯ มีประโยชน์ในการใช้เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย แต่ถ้ารับประทานมากจะทำให้ไขมันในเลือดสูงได้ ดังนั้นจึงต้องจำกัดการรับประทานไม่ควรเกิน 10% ของพลังงาน หรือน้อยกว่า 22 กรัม ต่อวัน หรือ 1½ ช้อนโต๊ะ สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน

ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat)
มี 2 จำพวก คือ
1. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA)
2. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) หรือ กรดโอเลอิก

• ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
คนทั่วไปรู้จักดี มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโอเมก้า 3 (กรดไลโนเลนิก) และ กลุ่มโอเมก้า 6 (กรดไลโนเลอิก) ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มจัดเป็นกรดไขมันจำเป็นสำหรับร่างกาย การรับประทานไขมันกลุ่มนี้ มีประโยชน์จะช่วยลด โคเลสเตอรอลได้ แต่การรับประทานมากเกินกว่า 10% อาจจะลดไขมันที่ดี คือ HDL ซึ่งเป็นตัวลดโคเลสเตอรอล ในเลือด

• ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือ MUFA
เป็นสารอาหารที่แพทย์ นักกำหนดอาหารนักโภชนาการ แนะนำให้รับประทานเพราะสามารถช่วยลดโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ นอกจากนี้ยังช่วยให้น้ำเลือดไม่หนืดข้น ซึ่งให้ผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และยังพบว่ายังมีส่วนช่วยเพิ่ม HDL ช่วยในการลดโคเลสเตอรอลในเลือด ขนาดที่แนะนำให้รับประทาน คือสามารถให้ได้ถึง 20% ของพลังงาน แหล่งที่มี MUFA สูง คือ น้ำมันดอกทานตะวันชนิดเฉพาะที่มีกรด โอเลอิกสูง ไม่ใช่น้ำมันดอกทานตะวันที่มีขายทั่วไป อย่างใดก็ตาม จำนวนไขมันทั้งหมดที่เรารับประทานก็ไม่ควรเกิน 30% ของพลังงานที่ได้รับจากอาหารในแต่ละวัน

ข้อมูลจากบริษัท แอบบ๊อต ประเทศไทย จำกัด

พี่ไก่ครับ ทดลองใหม่ได้ไหมครับ เอาเนื้อวัวหนุ่มอายุไม่เกินสองปี(เนื้อสุขภาพ) เนื้อไขมันแทรกปกติ เนื้อฉีดไขมัน แบบว่าอยากให้ผู้ชมทราบข้อมูลเพิ่มเติมครับ

ผมก้พอทราบมาบ้าง
และคิดเหมือนกันนะ ว่ามันจะทำลายระบบ
เอาของปลอมมาหลอกขาย และใขมันหุ้มทราก ก็อันตรายด้วย
หลอดเลือดอุดตัน เป็นโรคหัวใจ อัมพาตกิน ความดัน และตามด้วยโรคสารพัดโรค

ขอถามคุณไก่เพิ่มเติมครับว่าย่างแล้วกลิ่นเป็นอย่างไร?

ผมเช็คไปทางออสซี่ก็พบว่ามีการฉึดเหมือนกัน แต่เค้าจะติดป้ายบอกผู้บริโภคว่าเนื้อฉีดไขมัน และยังพบว่ามีบางรายนำเข้ามาจำหน่ายแล้วในเมืองไทยแต่ไม่แจ้งผู้บริโภค ขายปนกับของแท้

ในไทยก็ได้ข่าวว่ามีบุคคลบางกลุ่มที่ทำเพื่อเงินโดยไม่สนใจว่ามันจะส่งผลกระทบต่อระบบ ลองคิดเล่นๆว่าถ้าหากนำไขมันหุ้มซากเป็นก้อนๆมาเป็นวัตถุดิบในการฉีดเข้าไปในเนื้อที่ไม่มีลาย (รวมถึงเนื้อบาร์มันก็อาจทำได้) เค้าจะต้องนำก้อนไขมันเหล่านั้นไปผ่านความร้อนหรือตัวทำละลายก่อนถีงจะนำมาฉีดได้ (ผ่านการเจียวมาแล้วหนึ่งรอบ) แล้วพอมาย่างน้ำมันที่ฉีดเข้าไปก็จะผ่านความร้อนอีกครั้ง (ตรงนี้ซิเป็นอันตรายต่อสุขภาพ) ----->นึกแล้วใจหาย

เนื้อที่ฉีดแล้ว 1 โลที่ผู้บริโภคซื้อไป จริงๆแล้วอาจได้เนื้อแค่ครึ่งโลกว่าๆเพราะที่เหลือคือไขมันเลว( ไขมันอิ่มตัว) ที่ฉึดเข้าไป (ตรงนี้ผู้บริโภคถูกหลอก)

หากวันหนึ่งข้างหน้าผู้บริโภคทราบถึงความจริงและตระหนักถึงสุขภาพ แล้วความเขื่อถือและการบริโภคลดลง ได้มันจะไม่คุ้มเสีย แล้วอนาคตของอุตสาหกรรมเนื้อไทยที่กำลังจะไปได้สวยจะเป็นอย่างไร

ที่พี่อดิศวรกล่าว ผมเห็นภาพการทำไขมันแทรกเลยครับพี่อดิศวร

เคยเห็นแค่คนเค้าดูดไขมันออก ........

จำได้ เคยไปย่างกินในโรงชำแหละเนื้อ
เจ้าของโรงเชือดแร่เนื้อแต่ละส่วนมาปิ้งกินกันสดๆเพื่อชิมเปรียบเทียบ
ระหว่างเนื้อมันแทรกสีค่อนข้างใสๆ รสชาติมันชุ่มปาก กับ
เนื้อมันแทรกแบบขุ่นๆ มันติดลิ้นติดเพดานปาก
อร่อยต่างกันเยอะ

เอ๊ะ! แล้วเขาใช้ไขมันแบบไม่อิ่มตัวฉีดเข้าไปแทนไม่ได้หรือ