เริ่มเตรียมตัวกันหรือยังครับ
วันนี้ผมตั้งกระทู้มาเพื่ออยากรู้ว่าชาวโคบาลอย่างเราๆ ได้คิดและเตรียมตัวกันไปถึงไหนแล้วครับ
เริ่มเรื่องเลยน่ะครับ จากการที่ราคาเนื้อวัวในบ้านเราปรับตัวขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันมีปัจจัยหลายสาเหตุทำให้ราคาเนื้อวัวยังสูงอยู่ แต่อีก 8 ปี ข้างหน้่าเนื้อวัวจากประเทศออสเตรเลียจะถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ในราคาที่เสียภาษี 0% ในปี 63 นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ภาษีเนื้อวัวนำเข้าจากประเทศออสฯ ก็น่าจะอยู่ที่ 20% กว่านิดหน่อยครับ เพราะในข้อตกลงการค้าเสรี FTA กับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ระบุภาษีเนื้อวัวนำเข้าจะลดลงปีละ 3 % น่ะตอนนี้ต่อไปอีก 8 ปีครับ ซึ่งข้อตกลงนี้ทำกันตั้งแต่สมัย ดร.ทักษิณ เป็นนายก ตั้งแต่ปีอารายนั้นผมลืมไปแล้วครับ เมื่อถึงวันนั้น เนื้อวัวในบ้านเราจะอยู่ที่ราคาเท่าไรล่ะครับ ในเมื่อมันมีการนำเข้ากันอย่างเสรี ปลอดภาษี ผลกระทบน่าจะโดนเต็ม ๆ กับผู้เลี้ยงวัว โดยเฉพาะผู้เลี้ยงวัวขุน ในเมื่อมีทางเลือกมากขึ้นว่าจะบริโภคเนื้อจากที่ไหน เผลอๆ ราคาอาจจะถูกกว่าเนื้อบ้านเราก็ได้ครับ ซึ่งต้นทุนในการเลี้ยงวัวของออสเตรเลียเขาต่ำมากๆ ครับ มีพื้นที่เยอะปล่อยเลี้ยงทุ่งอย่างเดียว 1 ครอบครัว มีเป็น หมื่นๆ ไร่ครับ ถึงเวลาก็ไปดูทีนึ่ง สบายเขาครับ
และรู้ไหมครับว่าเขาตกลงกันนั้น เขาแลกเปลี่ยนอารายกัน ของเรายอมให้นำเข้าเนื้อวัว ภาษี 0 % โดยในปีแรก 50% ลดทันที 10 % ต่อจากนั้นลดปีละ 3% ครับ
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน
เปิดประเด็นหนักนิ เดี๋ยวขอปิดสิ้นเดือนก่อน แล้วจะมาร่วมออกความเห็นครับ
________________
ศรัทธา คือ การเชื่อในสิ่งที่คุณยังไม่เห็น และรางวัลแห่งศรัทธาก็คือ การได้เห็นในสิ่งที่คุณเชื่อ
ขอแจมด้วยคนนะครับ เมื่อ 3-4 ปีก่อน ไทยทำ FTA กับจีน กำแพงภาษีสินค้าเกษตรถูกทะลายลง ปีแรกๆ หอมกระเทียมแอปเปิลและสินค้าเกษตรหลายตัวทะลักเข้าไทย เกษตกรภาคเหนือผู้ปลูกหอมกระเทียมแทบเอาตัวกันไม่รอด ณ วันนี้ไทยส่งผลไม้เข้าจีนสูงเป็นประวัติการณ์มูลค่ากว่าสามหมื่นล้านบาท
อีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้กำแพงภาษีไทยกับออสเตรเลียจะถูกทะลายลงเช่นกัน ภาษีการนำเข้าเนื้อวัวก็จะเป็นศูนย์ ราคาวัวนำเข้าจากออสซี่ถึงบ้านเราก็จะถูกลงตามราคาภาษีที่ลดลง แต่ส่วนตัวแล้วราคาค่าขนส่งยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานโลกรวมทั้งค่าแรงและค่าบริหารการจัดการ ยังไงแล้วก็ยังคงจะแพงกว่าราคาที่เราผลิตได้เอง ครับ
วัวออสซี่ที่เค้าส่งออกไปทั่วโลกนั้นมีหลายเกรดหลายระดับ ระดับล่างคือวัวที่ไม่ได้ขุน หากส่งมาถึงบ้านเรา ยังไงราคาก็ยังสูงกว่าราคาวัวเขียงบ้านเรา เช่นเดียวกับตลาดบนครับ ต้นทุนเค้ายังไงก็คงสูงกว่าเราอยู่ดีครับ
แต่หากบ้านเราสามารถผลิตเองได้เกินกว่าที่ตลาดต้องการเหมือน 2-3 ปีที่ผ่านมา แน่นอนครับราคาโดยรวมก็จะถูกลง ราคานำเข้าก็จะสู้กับเราไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่น่ากลัวครับ เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
หากในทางกลับกัน ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกันผลิตเนื้อให้ตรงกับที่ตลาดต้องการในตลาดบนกันอย่างจริงจัง ให้ได้เนื้อที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณที่ตรงกับผู้บริโภคต้องการ เราก็ไม่น่ากล้วครับ อย่าลืมว่าค่าขนส่ง Logistic หากเป็นเนื้อและต้องส่งในระยะทางใกลหลายชั่วโมง ต้นทุนก็จะยังสูงอยู่ครับ แต่หากนำเข้ากันตัวเป็นๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายหลายๆอย่าง ค่าเรือ อาหาร แรงงานและกักโรค เป็นต้น
บ้านเราเองตลาดวัวสวยงาน (ที่กำลังมาแรง) ตลาดวัวพันธุ์ (สายบาร์มัน) ตลาดบน (เลือดยุโรปที่ยังแรงไม่หยุด) ตลาดล่าง ที่มูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี เลือกจุดที่เหมาะสมกับศักยภาพของตัวเองครับ ทุกสายพันธุ์มีคุณค่าครับ ร่วมด้วยช่วยกันและโชคดีทุกท่านครับ
ผมรบกวนขอความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AEC ด้วยเลยได้ไหมครับ เพราะหากเทียบกันกับทางออสซี่แล้ว แถวบ้านเราน่าจะได้เปรียบเรื่องการขนส่งมากกว่า แต่โดยส่วนตัวแล้วหากเทียบกันแค่เรื่องคุณภาพวัว ผมว่าแถบบ้านเราน่าจะอยู่คนละเกรดกับทางออสซี่นะครับ
หากเป็นเกรดพรีเมียมซึ่งราคาค่อนข้างสูง ผมว่าทางออสซี่ยังไงก็คุ้มค่าการขนส่งเพราะยังมีตลาดบริโภคเนื้อประเภทนี้อยู่ครับ แต่หากเป็นเกรดวัวเขียง วัวลูกชิ้น ไม่แน่ใจว่าวัวที่นำเข้าจากทางพม่าจะเข้ามาทำให้ราคาเนื้อในตลาดล่างลดลงหรือเปล่า
หากเทียบระยะเวลา และระยะทางแล้ว ตลาดล่างบ้านเราน่าจะได้รับผลกระทบจากทางแถบนี้มากกว่านะครับ (คหสต ครับ)
________________
สิ่งที่ดีที่สุด คือการที่เราได้อยู่ด้วยกัน
พอเพียงตามรอยพ่อ
FTA ให้เวลาเราปรับตัว 15ปีครับ ก่อนเปิดเต็มที่เป็น 0%
แต่ผมว่ามันนานเกิน พอเวลาผ่านมายังไม่ครึ่งทาง เราลืมกันไปหมดแล้วม๊างงงง ฮ่า ฮ่า
เราคงต้องบอกว่า โลกาภิวัตน์ (Globalization) นี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ขนาดพม่าสุดท้ายยังเปิดประเทศ
มองผลกระทบเกษตรกร แน่นอนครับ มีแน่ๆถ้าไม่ปรับตัว เช่นเดียวกับหอมกระเทียม
แต่ในทุกวิกฤตมีโอกาส ต้องมองหาจุดแข็งจุดอ่อนให้เจอแล้วเราจะรอดครับ
เอาแค่ วัวทุ่งวัวฝูงของออสเตรเลีย น่าจะพันธุกรรมดีกว่าเรามาก
ต่อให้เป็นบราห์มัน(ไม่ต้องนับยุโรป) คงจะมีทั้งยีนส์เนื้อนุ่มและยีนส์ไขมันแทรก มากกว่าวัวบ้านเรา
แปลตรงๆว่า คุณภาพเนื้อดีกว่า แม้ว่าจะเป็นบราห์มันไล่ทุ่ง
แต่ข้อด้อยของเขาคือ ขาดแรงงาน และต้องมีค่าขนส่ง
สิ่งที่เราควรทำก็คือ ปรับปรุงพันธุกรรมและปรับตัว(เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยง การจัดการ และต้นทุน)
ผมว่าเรื่องแบบนี้ พี่อดิศวร และ พี่Mr.Beef น่าจะอธิบายได้ดีกว่าผม
________________
ศรัทธา คือ การเชื่อในสิ่งที่คุณยังไม่เห็น และรางวัลแห่งศรัทธาก็คือ การได้เห็นในสิ่งที่คุณเชื่อ
ผมก็เห็นว่าราคามันก็น่าจะสูสีอยู่น่ะครับกับราคาเขียงชาวบ้าน แต่คิดว่าจะมีผลกับตลาดพรีเมียม และระดับกลางมากกว่าครับ เนื้อวัวนำเข้าตอนนี้ อยู่ที่ 400 กว่าบาท ถ้า 8 ปี ข้่างหน้าจะถูกลงกว่านี้ราคาก็น่าจะไม่ต่างจากราคาเนื้อตลาดล่างของเราสักเท่าไร หรืออาจจะต่ำกว่าก็เป็นไปได้
ในอนาคตค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้อาจเท่าเดิม มันก็จะทำให้ชาวบ้านปรับตัวตาม เลือกอาหารที่มีราคาถูก ถึงแม้คุณภาพจะน้อยก็ตาม เพื่อเซฟเงินในกระเป๋า
แต่เนื้อคุณภาพในบ้านเราราคาสูง เมื่อเนื้อนำเข้ามามีราคาต่ำกว่า หรือเท่ากัน คุณภาพใกล้เคียงกัน แล้วทำไมเจ้าของร้านอาหารต่าง ๆ ทั้ง สเต็ก ย่าง ฯ จะไม่เลือกของที่มีต้นทุนต่ำกว่า ผลกระทบก็จะมาอยู่ที่ผู้เลี้ยงวัว อย่างเราๆ ความต้องการเนื้อในแต่ละปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื้อไม่พอบริโภค แต่มีเนื้อจากต่างประเทศเข้ามาตีตลาด แย่งส่วนแบ่งการตลาดในบ้านเรา เมื่อความต้องการเนื้อมีเพียงพอกับการบริโภค ราคาวัวเป็นก็จะถูกลง ราคาเนื้อก็จะถูกลงตาม เพราะมีทางเลือกในการบริโภคเนื้อวัว ไม่เหมือนทุกวันนี้ำพ่อค้าวิ่งแย่งกันหาวัวเข้าเชือด หรือเข้าขุน ทำำให้เนื้อมีราคาสูงตามไปด้วย เมื่อดีมานด์กับซัพพลายไม่สมดุลกัน
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน
ขอบคุณพี่เอที่เปิดประเด็น AEC ครับ
อีกหน่อยวัวพม่าก็หมดครับ เพราะเราเอาเข้ามาบริโภคทุกปีครับพี่5555 ตอนนี้ ในกลุ่มอาเซียนเข้ามาสั่งซื้อวัวเนื้อกำแพงแสน จากบ้านเรา เวียดนานสั่งวัว 200 ตัว
กัมพูชา สั่ง 50 ทั้งตัวผู้ตัวเมืย สงสัยคงจะเอาไปพัฒนาต่อมั้ง แต่เราไม่มีวัวส่งให้ครับ
ตลาดวัวเป็นตอนนี้ดีมากครับ ส่งมาเลย์ ครับ มีความต้องการมาก
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน
มุมกลับกัน AEC ถ้าเราหาช่องทางเพื่อรุกตลาดแถบนี้ น่าจะมีโอกาสดีครับ
ไม่อย่างนั้น ดงประดู่ คงไม่หันกลับมาเร่งพัฒนาพันธุ์แพะแกะ ที่ฟาร์มหรอกครับ
อย่ากังวลแค่ว่า แพะพม่า จะไหลเข้าบ้านเรา ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ
เจ้าตัวแดงมันบอกว่า ป๋มจะ Go AEC ค๊าบบบบบบ
________________
ศรัทธา คือ การเชื่อในสิ่งที่คุณยังไม่เห็น และรางวัลแห่งศรัทธาก็คือ การได้เห็นในสิ่งที่คุณเชื่อ
โฮพี่ไก่ ทั้งวัว ทั้งแพะ แกะเลยน่ะีพี่ เหลือไว้ให้คนอื่นเขาบ้างน่ะพี่ รวบหมดเลย
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน
โฮพี่ไก่ ทั้งวัว ทั้งแพะ แกะเลยน่ะีพี่ เหลือไว้ให้คนอื่นเขาบ้างน่ะพี่ รวบหมดเลย
ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่ต๋อย ขอมีแพะแค่พอเป็นรายได้เสริมเล็กๆน้อยๆในฟาร์มอีกซักหน่อย
แต่จะว่าไป ที่จริงแล้ว หลายปีที่ผ่านมานี่ แกะดงประดู่ ทำรายได้ให้ฟาร์มมากกว่าวัวอีกนะเนี่ย
เพิ่มจากแพะอีกนิด ก็จะได้มีแรงมีทุนมาทำอย่างอื่นให้กับส่วนรวมได้อีกครับ
________________
ศรัทธา คือ การเชื่อในสิ่งที่คุณยังไม่เห็น และรางวัลแห่งศรัทธาก็คือ การได้เห็นในสิ่งที่คุณเชื่อ
ไทยเราขอนำเข้ารถยนต์นั่งและอะไหล่ครับ เพราะออสเตรเลียเขาผลิตแต่รถบรรทุกใหญ่ๆ ครับ โดยมีเพียงแค่ 4 -5 บริษัทที่ได้ประโยชน์เต็มๆ แต่เกษตรกรคนเลี้ยงวัวอย่างเราเดือนร้อนกันมากกว่าหลายเท่าครับ มันน่าเศร้าไหมครับ
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน
________________
ขยันทำ ไม่ขยันพูดพล่าม สักวันเราจะมีกิน